วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การ Export to DVD แล้วเขียนด้วยโปรแกรม Nero


การ Export to DVD แล้วเขียนด้วยโปรแกรม Nero
เราสามารถออกแบบปกหน้าทิ้งไว้ สำหรับลากเข้าเป็นแบ๊ลคกราวน์ พื้นหลัง ใน เNero ได้ เลย ให้ออกแบบขนาดปกตามขนาดไฟล์ของงานที่ถ่ายมา ( ดูวิธีเช็คไฟล์งาน ในบทแรกก่อน Import งานและเซ็ตโปรเจค)

1. เมนู File > Export > Adobe Media Encoder





2. ที่ตำแหน่ง  A ลากหัวเล่นมาทางขวามือให้เห็นภาพจากไฟล์งาน  - ที่ แถบ B เป็นงานจริงจากที่เราตัดต่อ   - ที่แถบ C เป็นงานที่เราจะได้เมื่อ Export เสร็จแล้ว   - ใช้เพื่อเช็คงานว่าเมื่อส่งออกเป็นดีวีดีแล้วภาพจะมีความคมชัดไหม  และมีขนาดตรงตามสัดส่วนจริงหรือปล่าว
การเซ็ตงานที่ดีที่สุดคือ งานต้นฉบับกับงานที่ Export ต้องเหมือนกันทั้งขนาดสัดส่วนและความคมชัด  เราสวิทช์ภาพไปมาเพื่อเปรียบเทียบกันได้ (ถ้ามีตัวหนังสือ จะสังเกตุเห็นความคมชัดได้ง่ายขึ้น  - ขอบบนล่าง และข้างๆต้องไม่มีแถบดำ ภาพต้องเต็มเฟรมเหมือนต้นฉบับ)
3. หน้าต่าง Export setting ให้เซ็ตดังภาพ
Format : MPEG2-DVD  -     Range : Work Area  
-   Preset : Custom 
ติ๊กเครื่องหมายถูกในช่อง  Export Video และ  Export Audio
 
แถบ Video - Basic Video Setting  - Quality : 5    ลากไปจนสุด- ดีที่สุด
Field Order : None
Pixel Aspect Ratio :
 ถ่ายแบบ  4: 3 หรือ 16 : 9  โปรแกรมจะเลือกเองอัตโนมัติ
แถบ  Multi plexer เลือก DVD  เสร็จแล้วดูขนาดไฟล์
ด้านล่างสุด
Estimated file size :  21.31 Mb. ในภาพนี้  ไฟล์ไม่ใหญ่มาก

4 .กด  OK -   ช่องตั้งชื่อไฟล์ และ Save ไฟล์ จะขึ้นมาให้เราเลือกที่เก็บ 

5. หลังจากนั้นก็ขึ้นกล่องกำลังเรนเดอร์งาน จนเสร็จ ไฟล์ที่เราได้จะเป็น นามสกุล
Movies .mpg  ลองใช้โปนแกรม VLC เปิด ก็จะได้ทั้งภาพและเสียง
6.เปิดโปรแกรม Nero เลือก สร้างดีวีดีวิดีโอ
7. ลากไฟล์เข้าไปวาง  >next > ลากไฟล์แบล็คกราวน์ที่เราทำไว้ (ถ้ามี)
8. ตกแต่งชื่อ ขนาด Icon โชว์ภาพเสร็จแล้วก็ Burn ได้เลย











           การปรับ Export Movies ขั้น Advance
 ข้อดี : งานมีความละเอียดสูง กว่าขั้น Basic
ภาพที่ได้จะคมชัดกว่า ตัวอักษรไม่แตกเกรน
ข้อเสีย : ไฟล์งานที่ได้จะ มีขนาดใหญ่ขึ้น
ใช้เวลา ในการ Export นานขึ้น
ซึ่งเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง จึงจะสามารถทำได้
ถ้าเครื่องไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพียงพอ อาจกระตุกและแฮงค์
ไม่สามารถ Export ได้  
Bitrate Setting :
Bitrate Encoding : VBR,2-Pass
Minimum   Bitrate  :  5 -6
Target Bitrate          : 6-7
Maximum Bitrate    :7-8 






เปรียบเทียบภาพจากต้นฉบับ กับ ภาพที่เราได้ตอน Export
ถ้ามีตัวหนังสือ จะสังเกตุเห็นความคมชัดได้ง่ายขึ้น  -ขอบบนล่าง และข้างๆต้องไม่มีแถบดำ ภาพต้องเต็มเฟรมเหมือนต้นฉบับ




การ Export Movies to DVD


การ Export Movies  to  DVD

เมื่อเราตัดต่อวิดีโอเสร็จแล้ว เราต้องการเขียนงานลงในแผ่นดีวีดี  ไฟล์ที่ต้องการสำหรับ DVD คือ  Mpeg2  ,  mv2   สามารถเขียนด้วยโปรแกรม Nero หรือ เขียนผ่านโปรแกรม Media encoder , ได้เลย จะกล่างเพียง 2 แบบที่เป็นแบบ Basic เบื้องต้น สำหรับมือใหม่
สำหรับงานที่ตัดต่อด้วย Adobe Premiere Pro  มีวิธีการทำหลายแบบ  แต่ก่อนจะExport งานให้ เช็คงานให้พร้อมดังนี้

 *****   ก่อนจะ Export วิดีโอ ให้ ตรวจเช็คงานใน Work Area  ก่อน

การกำหนด Work Area  ของงานที่จะส่งออกว่า ครอบคลุมงานทั้งหมดหรือยัง โดย ย่อไทมไลน์ให้เล็กลงมองเห็นงานทั้งหมด
จะเห็นเส้น Work Area ยาวจากต้นเรื่องไปจนจบเรื่อง ถ้ามองดูแล้วเส้นยาวเกินเรื่องที่จะตัดก็ให้ลากหัวเล่นสีฟ้ากลับมา หรือกด แป้น Page up / page down ให้ตรงตำแหน่งที่เราต้องการแล้ว สร้าง Work Area ดังนี้
1. กดแป้น  Home เริ่มงาน  หัวเล่นไปตั้งต้น      2. กด Alt+ ปีกกาด้านซ้ายมือ  - กำหนดเริ่มงาน
3. กด แป้น  End หัวเล่นสีฟ้าจะมาไฟล์สุดท้าย ถ้าไฟล์สุดท้ายจบงานก็ กด Alt+ ปีกกาด้านขวามือ  - แถบ  Work Area  ก็จะคลุมงานทั้งหมดที่เราจะส่งไปทำดีวีดี
จากนั้นดูว่ามี ส่วนไหนบ้างที่เป็นแถบสีแดงขึ้นด้านล่าง ของ แถบ Work Area  ให้ทำการ Render แถบทั้งหมดเป็นสีเขียวก่อน


 
การเรนเดอร์งานทั้งหมด เลือก  Sequence >> Render Work Area

 
เครื่องจะทำการเรนเดอร์งานทั้งหมดให้เรียบร้อย 

 
แถบสีฟ้า คือเครื่องกำลังเรนเดอร์งานทั้งหมด ไปจนครบ 100 %  เมื่อเสร็จแล้ว เส้นสีเขียวก็จะยาวต่อกันจนจบงาน


 
การ Export to DVD แล้วเขียนด้วยโปรแกรม Nero
1.เมนู File > Export > Export to Encore

2. จะมีช่องให้กรอกซึ่งต้องตั้งค่าดังนี้
             ตามหมายเลขในภาพ   - 1. ตั้งชื่อไฟล์  -  เลือก DVD/Single Layer            
                                        2. ถ้าเลือก Direct Burn  -ไม่ทำเมนู - export ไฟล์เสร็จเขียนแผ่นเลย เวลาเปิดดูใส่แผ่นจะ เล่นดีวีดีอัตโนมัติ  - แต่ถ้าเลือก Author with menus - ต้องทำเมนู ตอนที่Export เสร็จ เครื่องจะรอที่หน้าโปรแกรม ทำเมนู ให้เราทำใส่ก่อนแล้วถึงจะสั่งเขียนแผ่นดีวีดี


3.เลือกส่งงานทั้งหมดใน Work Area 
4. คลิ๊ก  OK  รอจนกว่าจะเขียนแผ่นเสร็จ ใช้เวลาพอสมควร ตามสเปคเครื่อง และขนาดความยาวของงาน ไม่ต้องรอ ออกไปหาข้าวกินได้เลย

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

Text Crawl - เลื่อนข้อความวิ่งด้านล่างจอ


Text Crawl  -  เลื่อนข้อความวิ่งด้านล่างจอภาพ  ต้องการให้วิ่งช้าให้ยืดเฟรมนั้นออกยาวๆ  ปรับไปมา ตามใจชอบได้
คือ  ข้อความด้านล่างจอ จะวิ่งจากทางขวาไปทางซ้ายจอ หรือจากซ้ายไปขวาก็ได้    ดังในจอทีวีที่นำเสนอข้อความอยู่ด้านล่างภาพข่าว  หรือเป็น ข้อความจาก SMS 


1.เมนู Title > Text Crawl > ตั้งชื่อไฟล์ > พิมพ์ข้อความใส่ช่องยาวเท่าใดก็ได้ กรอบของจอจะเลื่อนให้เรื่อยๆ  ลากดูได้ทั้งซ้ายขวา


2. เมื่อพิมพ์เสร็จแล้ว คลิ๊กช่องแรก(หมาย เลข 1 ในภาพ ) กล่องเลือกข้อความจะให้เคลื่อนไปทางซ้ายมือหรือขวามือก็ได้ มีปุ่มให้เลือก



. ปิดหน้าไตเติ้ล ไฟล์ก็จะ Save เข้ามาอยุ่ในช่อง Project โดยอัตโนมัติ  ลากไฟล์มาวางในไทม์ไลน์ช่องบนสุดของภาพ  ถ้ามีการใช้ไทม์ไลน์หลายช่องก็ให้เอาไว้ช่องบนที่สุด จะได้ไม่มีภาพมาใดบังข้อความ - ต้องการให้วิ่งช้าลงให้ลากเฟร มtext Crawl ให้ ยืดออก



Note :  ถ้าต้องการใช้ ไฟล์ข้อความแบบเดิม แต่ลืมทำมาสเตอร์แบบไว้ ให้เปิดไฟล์นั้นขึ้นมาและแก้ไขข้อความเสร็จแล้ว แทนที่จะปิด หน้าต่างTitle (ซึ่งมันก็จะทับไฟล์เดิม ก็จะเสีย)   ก็ให้ คลิ๊ก ที่ตัว ปุ่มตัว T  จะมีช่องมาให้ Save ไฟล์ ก็ตั้งชื่อใหม่เลย ไฟลืเดิมก็จะไม่ถูกทับ และไฟลืใหม่ก็จะใช้งานได้ต่อไป (ดูภาพประกอบ)


วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555

Title Roll แบบ เลื่อนขึ้นจากด้านล่างไปถึงด้านบนจอ


Title Roll  แบบ เลื่อนขึ้นจากด้านล่างไปสุดด้านบนจอ
นิยมใช้เทคนิคนี้ตอนที่หนังจบ  นำเสนอรายชื่อนักแสดง  ผู้สร้าง ช่างภาพ  ผู้ช่วย ช่างเสียง  ประสานงาน  ผู้กำกับ   ผู้อำนวยการผลิต ดังตัวอย่าง
Directed
El Dorado
Produced
John Wayne
Executive Producers
Peter Cullen
Written
Michael Bay
Camera
Patchareewan Bd
Edited
Frank Welker
Cast
Leonard Nimoy
Mark Ryan
Music
Shia LaBeouf
Opening Title Design
Peter Cullen
Special Thanks To
Jess Harnell
Reno Wilson
Copyright
SAC@2012


1.เลือกเมนู Title > New Title > Default Roll  >  ตั้งชื่อไฟล์  แล้วคลิ๊ก OK


2. พิมพ์ข้อความลงไปเรื่อยๆ ก็จะต่อหน้าใหม่ไปเรื่อยๆ จนจบเครดิตปิดท้าย เลือกรูปแบบและพิมพ์ แยกสีสันได้ทุกตัว ทุกบรรทัด


ถ้าข้อความชิดกันเกินไปในแต่ละบรรทัดให้ปรับ  Leading  ปกติจะอยู่ที่ตำแหน่ง 0.0

ถ้าตัวหนังสือในแถวเดียวกันชิดเกินไปให้ปรับ  Aspect  ปกติจะอยู่ที่ตำแหน่ง 100.0




3.เมื่อเสร็จแล้วกดปิด เครื่องหมายกากบาท  - ไฟล์ end credit ก็จะปรากฏในช่อง Project ซ้ายมือบน
4. ลากไฟล์ นี้ลงมาใส่ ไทมไลน์  ( TL)



 
5. เมือเล่นดูข้อความก็จะเลื่อนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว   เราต้องทำให้ข้อความเลื่อนช้าลง ให้พอดีอ่านได้ โดยการยืดแถบข้อความสีเทา บนไทม์ไลน์ออกไป ตามต้องการ ปรับสั้นยาวไปมา แล้วกด Play ดู  ถ้าเห็นว่าเลื่อนขึ้นพอดีอ่านได้และสวยงามก็ เสร็จสิ้น





 
รูปแบบการใส่ข้อความในเครดิต แบบมาตรฐาน  จาก BBC TV   ดูได้ที่ นี่ โปรดคลิ๊กที่ลิงค์

http://finalcut-v4.blogspot.com/2012/04/closing-credit-format.html